ข่าวภาคค่ำ – ตำรวจนครบาล ยืนยันทราบข้อมูล นายทุนผับลับชาวจีน แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเสี่ยงกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน
ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ผับลับ จินหลิง ย่านยานนาวา เขตสาทร ที่มีสื่อมวลชนหลายสำนัก นำเสนอชื่อและหลักฐานว่าคือ นายตู้ฯ และนายชัยฯ และยังเป็นคนที่บริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองกว่า 3 ล้านบาท
พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนมีข้อมูลของคนที่เป็นนายทุน หรือเจ้าของผับลับตัวจริงในระดับหนึ่งแล้ว แต่ต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน เพื่อใช้ประกอบการออกหมายเรียก หรือหมายจับ โดยไม่ขอยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกับที่มีการนำเสนอข่าวออกมาก่อนหน้านี้หรือไม่ รวมถึงข้อมูลที่มีการระบุว่า ภรรยาของผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวเป็นข้าราชการตำรวจด้วย เพราะเกรงจะกระทบต่อรูปคดี และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่จากการรวบรวมข้อมูล พบว่าเจ้าของผับลับตัวจริง มีการใช้ชื่อของบุคคลอื่นยื่นจดแจ้งประกอบกิจการ และมีนอมินีอีกหลายคน พร้อมกันนี้ยังยืนยันการสืบสวนสอบสวนเป็นการทำตามหน้าที่ปกติ ไม่ได้มีคำสั่งทางการเมืองแต่อย่างใด
ส่วนความเคลื่อนไหวของฝั่งการเมือง นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า แม้มีช่องทางให้ร้องยุบพรรคได้ตามกฎหมายปัจจุบัน ที่มีถึง 13 ช่องทาง แต่พรรคไม่เห็นด้วย เพราะเหตุผลเดียวที่จะนำไปสู่การยุบพรรคได้ ควรเป็นเรื่องล้มล้างการปกครองเท่านั้น
สำหรับการเปิดตู้เซฟ 5 ตู้ ที่ยึดได้จากการเข้าตรวจค้นภายใน ผับลับ จินหลิง ในวันจันทร์นี้ พนักงานสอบสวนได้นัดหมายให้ทีมช่างจากบริษัทผู้ผลิตตู้เซฟ เข้าทำการเปิดตู้เซฟ 3 ตู้ ที่เก็บรักษาไว้ที่ สน.ยานนาวา โดยคาดว่าจะพบของกลางยาเสพติด และทรัพย์สิน ซุกซ่อนอยู่ ก่อนจะดำเนินการเปิดตู้เซฟที่เหลืออีก 2 ตู้ ที่เหลือในภายหลัง