โดยนายสำเร็จ วจนะเสถียร ได้ชี้แจงในผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีข้อความว่า “ตามที่ ก.ล.ต. ได้กล่าวหาผมเรื่องการใช้ข้อมูลภายในสำหรับการซื้อเหรียญ KUB ของผม ระหว่างวันที่ 4 กันยายน 2564 จนถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 นั้น ผมอยากจะใช้ช่องทางนี้เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและความบริสุทธิ์ใจของผม ดังนี้
ผมรู้กฎหมายเรื่อง Insider trading เป็นอย่างดีว่า เวลาผมทำโปรเจค ผมก็จะซื้อเหรียญ KUB ไม่ได้ ดังนั้น ผมจะมีช่วงเวลาสั้น ๆ หลังโปรเจคเปิดตัว และยังไม่ได้เริ่มโปรเจคใหม่ที่ผมจะลงทุนซื้อ เหรียญ KUB ได้ โดยก่อนหน้าช่วงเวลาดังกล่าว ผมอยากซื้อ เหรียญ KUB ในราคาที่ต่ำกว่า 30 บาท แต่ซื้อไม่ได้เนื่องด้วยผมทำโปรเจค Morning Moon ก่อนหน้านี้ สุดท้ายผมรอโปรเจค Morning Moon เปิดตัวเลยต้องซื้อ เหรียญ KUB ได้ที่ราคา 30 บาท – 32 บาท เพราะหากไม่ซื้อภายในช่วงเวลาดังกล่าว ผมก็จะต้องเริ่มโปรเจคใหม่ และจะทำให้ผมไม่สามารถซื้อเหรียญ KUB ได้อีกนาน
ส่วนเวลาก่อนหน้านี้ก็ซื้อเพื่อแลกเป็นค่าธรรมเนียมการเทรดใน Exchange ทันทีช่วงเวลาที่ กลต. กล่าวโทษ ผมเป็นผู้บริหาร BBT ซึ่งเป็นคนละบริษัทกับ Exchange ดังนั้นผมกล้าพูดได้ว่า ผมไม่รู้เรื่อง SCB Deal ใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าผมรู้ผมคงขาย WAN, SNT, BNB, Ethereum ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 4 ล้านบาทแล้ว และคงลงเงินกับ เหรียญ KUB ไปให้หมดไปแล้ว ซึ่งจำนวนเงินที่ผมลงทุนในเหรียญ KUB ก็ใกล้เคียงกับเหรียญอื่น ๆ ที่ผมมีส่วนตัวแล้ว เป็นจำนวน 60,000 KUB ผมมองว่าจำนวนไม่ได้ผิดแปลกแต่เป็นความบังเอิญที่เป็นเวลาที่เค้าทำ Deal กันพอดี
การซื้อเหรียญ KUB ของผมมีวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนระยะยาว ดังจะเห็นได้ว่า หากผมซื้อเหรียญ KUB โดยมีเจตนาที่จะมุ่งหวังทำกำไรระยะสั้นแล้ว ผมคงเทขายเหรียญ KUB ทั้งหมดเพื่อทำกำไรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ผมยังไม่ได้ขายเหรียญ KUB ดังกล่าวเพื่อทำกำไรแต่อย่างใดจนถึงวันนี้ที่ผมพิมพ์ มีส่วนหนึ่งที่เอาไปแลกค่าธรรมเนียมการเทรดใน Exchange เท่านั้น
เรื่องราวทั้งหมดผมได้บอก ก.ล.ต. แล้วแต่ทาง ก.ล.ต. ก็ยังตัดสินลงโทษอยู่ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีหลักฐานชัดเจนว่าผมกระทำผิด ผมจึงจะขอต่อสู้ในกระบวนการทางกฎหมายต่อไป ผมขอยืนยันว่า ผมบริสุทธิ์ใจและยืนหยัดที่จะพัฒนาเทคโนโลยีของ Bitkub Chain ต่อไป เพื่อให้ประเทศไทยมีเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ดีและได้มาตรฐานเพื่อให้คนไทยได้ใช้งานอย่างแพร่หลาย”
สำเร็จ วจนะเสถียร
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี (Chief Technology Officer : CTO)
บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด