16 ราษฎรขอนแก่นรายงานตัวคดีชุมนุมการเมือง สภ.เมืองขอนแก่น วางกำลัง 4 กองร้อย ขึงลวดหนามรอบโรงพัก – THE STANDARD

วันนี้ (22 มีนาคม) 16 แกนนำราษฎรขอนแก่นเข้ารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น โดยตำรวจได้เตรียมตำรวจควบคุมฝูงชน 4 กองร้อย พร้อมแท่นแบริเออร์และรั้วลวดหนามหีบเพลงประจำการแน่นโดยรอบสถานีตำรวจ

16 แกนนำราษฎรขอนแก่นเข้ารายงานตามฐานความผิดใน 3 คดี ได้แก่ คดีชุมนุมที่สวนเรือนแสงและหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น และคดีชุมนุมที่สถานีตำรวจภูธรย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่นเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564 และมีคดีชักธงปฏิรูปกษัตริย์ที่ตึกอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น


โดยมี เซฟ-วชิรวิทย์ เทศศรีเมือง แกนนำคณะราษฎรขอนแก่น คือแกนนำกลุ่มแรกๆ ที่เดินทางมาถึงหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น โดยทำการเผาหมายเรียกของตนเองเป็นสัญลักษณ์ยืนยันในสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมทางการเมืองอย่างสงบ

เซฟกล่าวว่าตนเองได้รับหมายเรียกรวม 3 หมายเรียก ซึ่งก็มารายงานตัวพร้อมกับผู้ที่ถูกออกหมายเรียกทั้ง 16 คน ประกอบด้วย ครูใหญ่-อรรถพล บัวพัฒน์, ชัยธวัช นามมะเริง, นิติกร ค้ำชู, กรชนก แสนประเสริฐ, พชร สารธิยากุล, ธนศักดิ์ โพธิเตมีย์, วีรภัทร ศิริสุนทร, ภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์, ศรายุทธ นาคมณี, จตุพร แซ่อึง, เชษฐา กลิ่นดี, ศิวกร นามนวด, เจตน์สฤษดิ์ นามโคตร, อิศเรษฐ์ เจริญคง, วิศัลยา งามนา และตนเอง ซึ่งทุกคนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เพราะชุมนุมกันตามสิทธิและหน้าที่ แต่ตำรวจเล่นใหญ่มาก จัดกำลังตำรวจนับร้อย วางกำลังอย่างเข้มงวด พวกตนมารายงานตัวตามหมายเรียกที่ยืนยันในการต่อสู้ตามกฎหมาย ซึ่งทั้ง 16 คนนั้นยืนยันในการปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและเตรียมการประกันตัวไว้แล้ว แต่หากตำรวจมีการสั่งฟ้องแกนนำทั้ง 16 คนและฝากขังที่ศาลขอนแก่น ทีมกฎหมายและทนายความก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ขณะที่ครูใหญ่กล่าวว่ารู้สึกแปลกใจมากที่จังหวัดขอนแก่นมีมาตรการเข้มงวดแบบนี้ โดยวันนี้เป็นการรายงานตัวตามหมายเรียกจากการชุมนุมในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งหมายเรียกเพิ่งส่งทางไปรษณีย์เมื่อช่วงเช้าก่อนที่ตัวเองจะเดินทางออกมา อย่างไรก็ตาม คดีวันนี้เป็นอีกหนึ่งในหลายคดี โดยคดีสำคัญของตัวเองคือวันที่ 25 มีนาคมนี้ ซึ่งต้องรอฟังคำสั่งอัยการว่าจะสั่งฟ้องศาลในข้อหาตามมาตรา 112 ซึ่งถ้าสั่งฟ้องศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่ แต่ตนจะขอพูดเหมือนสั่งเสียล่วงหน้าไว้ว่าการต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยยังต้องดำเนินต่อไป

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์