09.00 INDEX ท่วงท่า เอาคืน ทาง “การเมือง” ร้าวแยก แตกลึก ใน “รัฐบาล”

09.00 INDEX ท่วงท่า เอาคืน ทาง “การเมือง” ร้าวแยก แตกลึก ใน “รัฐบาล”

เสียงหัวเราะอันดังจากปาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เมื่อประสบกับคำถามถึงท่าทีของการร่วมรัฐบาล เป็นเสียงหัวเราะซึ่งสื่อความ หมายโดยอ้อมในทางการเมือง

ไม่เพียงแต่ส่งตรงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เพียงแต่ส่งตรงไปยังพรรคพลังประชารัฐ

หากที่สำคัญคือ “สัญญาณ”แหลมคมยิ่งในทางการเมือง

แน่นอน ย่อมมิได้เป็นสัญญาณมายังพรรคฝ่ายค้าน ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกล หากสื่อจากใจถึงใจไปยังพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันอย่างมีนัยะยิ่ง

เพราะจังหวะก้าวหนึ่งซึ่งเป็นความมุ่งมั่นของพรรคประชาธิปัตย์ คือการจะร่วมมือกับพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนาในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา

คำถามก็คือ ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ไม่หันไปหาพรรคพลังประชารัฐ ทำไมไม่หันไปผูกมิตรสร้างสัมพันธ์กับ 250 ส.ว.

เรื่องอย่างนี้มีหรือที่ระดับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ จะไม่รู้

ประหนึ่งว่ามีรอยร้าว มีความหมองหมางในทางความรู้สึก จึงได้เกิดคำถามไม่ว่าจะต่อพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะต่อพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะต่อพรรคชาติไทยพัฒนา

เป็นคำถามอภิมหาอมตะนิรันดร์กาลว่ายังคิดจะร่วมกับรัฐบาลร่วมกับพรรคพลังประชารัฐอยู่หรือไม่

อย่าได้แปลกใจหากจะได้ยินเสียงหัวร่อดังขึ้นจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เสียงหัวร่อแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนปรากฏการณ์ในคืนวันที่ 17 มีนาคมอย่างแน่นอน

ปรากฏการณ์ที่มีการหักหลังกันในการลงมติรับหรือไม่รับร่าง พรบ.แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญอันมาจากพรรคพลังประชารัฐ อันมา จาก 250 ส.ว.ต่างหากคือคำตอบสุดท้าย

ไม่ว่าจะต่อพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะต่อพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะต่อพรรคชาติไทยพัฒนา

นี่คือปรากฏการณ์”เบิกเนตร”ครั้งสำคัญยิ่งในทางการเมือง

จังหวะก้าวนับแต่นี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะออกมาจากพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะออกมาจากพรรคชาติไทยพัฒนา จึงทรงความหมาย

เวลาที่เหลืออีก 2 ปีกว่าจะถึงเดือนมีนาคม 2566 จึงเป็นเวลา แห่งการคิดบัญชีเพื่อ”เอาคืน”ในทางการเมือง

เพียงแต่ด้วย”ท่วงท่า”และ”อาการ”แบบใดเท่านั้น