สมาคมจักรยานฯ เป็นเจ้าภาพจัด 2 งานใหญ่ BMX เอเชีย เก็บแต้มโอลิมปิกสนามสุดท้าย ประชุมใหญ่สามัญ สหพันธ์สองล้ออาเซียน
ถนนทุกสายมุ่งหน้าสู่ประเทศไทย จากการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ เป็นเจ้าภาพจัด 2 งานใหญ่ เปิดฉากด้วยศึกจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่สวนกีฬากมล หนองจอก วันที่ 29-31 พ.ค.67 ชาติต่าง ๆ ในเอเชียแห่ส่งนักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์มาเพื่อล่าแต้มโอลิมปิกเกมส์ 2024 สนามสุดท้าย ขณะที่ประเภทชาลเลนจ์มีนักปั่นทั้งไทยและต่างชาติร่วมชิงชัยกว่า 500 คน โดยพิธีเปิดการแข่งขัน วันที่ 30 พ.ค.67 ได้รับเกียรติจาก “นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ” ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี ส่วนอีกงานเป็นการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2024 ของสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) หรือ “ACF Congress 2024” วันที่ 1 มิ.ย.67 ที่โรงแรมเดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น ด้าน “เสธ.หมึก” ประธานเอซีเอฟ เผยวาระสำคัญการประชุมคือการพัฒนากีฬาจักรยานในอาเซียน รวมถึงหารือแนวทางการร่างกฎระเบียบการจัดแข่งขัน Balance Bike หรือหนูน้อยขาไถให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก่อนจะนำไปเสนอ “เดวิด ลาปาเตียนท์” ประธานสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) เพื่อพิจารณาให้การรับรองต่อไป
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ เตรียมจัด 2 งานใหญ่ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมและต้นเดือนมิถุนายน ศกนี้ งานแรกเป็นการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2024 หรือ Asian BMX Continental Championships 2024 ระหว่างวันที่ 29-31 พฤษภาคม 2567 ที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์ สวนกีฬากมล เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับการรับรองจากสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) และมีการบรรจุลงในปฏิทินการแข่งขันประจำปีของ ยูซีไอ เรียบร้อยแล้ว ส่วนงานที่สองคือการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2024 ของสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) ในวันที่ 1 มิถุนายน ที่โรงแรม เดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น ถนนศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ
พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2024 มีหลายชาติในทวีปเอเชียส่งนักกีฬาจากเข้าร่วมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, จีน, ฮ่องกง, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และไทย เนื่องจากมีการเก็บคะแนนสะสมเพื่อคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นรายการสุดท้าย ก่อนจะปิดระบบการคิดคะแนนสะสมในวันที่ 31 พฤษภาคม นอกจากเป็นการแข่งขันรายการชิงแชมป์เอเชียแล้ว ก็ยังมีการแข่งขันประเภทชาลเลนจ์ โดยเปิดให้นักกีฬาจากชมรมและสโมสรต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศส่งนักกีฬามาประลองฝีมือกัน ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้เปิดรับสมัครผ่านเว็บไซต์ของสมาคมฯ มีนักกีฬาสมัครเข้าร่วมชิงชัยเกือบ 400 คน
“เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า ล่าสุด สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ปิดการรับสมัครประเภทชาลเลนจ์ทางเว็บไซต์ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่ามีเสียงเรียกร้องจากบรรดาสโมสรสมาชิกและทีมต่าง ๆ ว่าอยากจะส่งนักกีฬาสมัครแข่งขันเพิ่มอีก ดังนั้น สมาคมฯ จึงเปิดโอกาสให้นักกีฬาที่ยังสมัครไม่ทัน หรือสโมสรที่ต้องการส่งนักกีฬาสมัครแข่งขันเพิ่มเติม สามารถสมัครได้ด้วยตนเองที่กองอำนวยการ บริเวณสนามบีเอ็มเอ็กซ์ สวนกีฬากมล ในวันที่ 28 พฤษภาคม เวลา 09.00-15.00 น. ก่อนที่จะมีการประชุมผู้จัดการทีมประเภทชาลเลนจ์ ในวันที่ 29 พฤษภาคม เวลา 13.00-14.00 น. ที่อาคารสำนักงาน “เอฟบีที” ส่วนประเภทชิงแชมป์เอเชีย จะมีการประชุมผู้จัดการทีมในวันที่ 28 พฤษภาคม เวลา 13.00-14.00 น. ที่อาคารสำนักงาน “เอฟบีที” เช่นเดียวกัน
“เวลานี้ถนนทุกสายต่างมุ่งหน้าสู่ประเทศไทย การที่มีทีมต่างชาติส่งนักกีฬามาร่วมแข่งขันเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าทุกชาติมั่นใจในศักยภาพของเราในการเป็นเจ้าภาพระดับนานาชาติ นับตั้งแต่การแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่จังหวัดระยอง เมื่อปีที่แล้ว มีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ร่วมชิงชัยเกือบ 2,000 คน ที่สำคัญได้รับการชื่นชมจากทุกชาติว่าประเทศไทยดูแลต้อนรับเป็นอย่างดี การบริหารจัดการต่าง ๆ ทั้งโรงแรมที่พัก อาหาร การรับ-ส่งจากโรงแรมไปยังสนามบิน ก็ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง ส่วนการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ครั้งนี้ จะมีนักกีฬาที่มาแข่งขันชิงแชมป์เอเชียและประเภทชาลเลนจ์รวมกันมากกว่า 500 คน ยังไม่รวมผู้ติดตามและกองเชียร์อีกต่างหาก คาดว่าการแข่งขันครั้งนี้จะมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1,000 คนอย่างแน่นอน” พลเอกเดชา กล่าว
นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า ด้านนักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทยก็ฝึกซ้อมอย่างหนักภายใต้การควบคุมทีมของ มร.ฮาร์วี่ เครป ผู้ฝึกสอนชาวสวิตเซอร์แลนด์ และ ส.ท.นนทกร อินทร์โคกสูง ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน สำหรับนักปั่นทีมชาติไทยที่จะลงแข่งขันรุ่นต่าง ๆ มีดังนี้ รุ่นประชาชนชาย “เอ้” ส.ท.โกเมธ สุขประเสริฐ / รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี นายอภิสทธิ์ ใจอยู่, นายศรัณย์วิทย์ รัศมี / รุ่นเยาวชนชาย นายพุทธภูมิ นาคแป้น, 2.นายลิขสิทธิ์ พิมพา, นายกณวรรธน์ เชื้อทหาร และอีก 1 คน ระหว่าง นายรวิพล ภูนุช กับ นายพร้อมคุณ นิมิตราภรณ์ ซึ่งมีฝีมือใกล้เคียงกันมาก โดย มร.ฮาร์วี่ จึงให้นักปั่นทั้ง 2 คนประลองฝีมือกันในวันที่ 22 พฤษภาคม หากใครทำสถิติได้ดีกว่าก็จะได้ติดทีมชาติ / รุ่นประชาชนหญิง ส.ต.หญิง ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร, น.ส.วรัญญา แซ่แต้ / รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง น.ส.เขมิกา ศรีโสภา, น.ส.หทัยเพชร ใจสว่าง, น.ส.กนกรัตน์ ฤทธิเดช / รุ่นเยาวชนหญิง น.ส.พิมพ์มณี นิมิตราภรณ์, น.ส.ฐิติชญา ขาวดี, น.ส.ณัฐวรรณ ตาใส
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันในวันที่ 30 พฤษภาคม มีพิธีเปิดการแข่งขัน เวลา 08.30 น. โดยได้รับเกียรติจาก นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และประธานที่ปรึกษาสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในพิธี จากนั้นจะมีการแข่งขันประเภทชาลเลนจ์ รอบคัดเลือกทุกรุ่น เริ่มเวลา 10.45 น. เป็นต้นไป ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association และ Thai Sport Plus พร้อมทั้ง YouTube : TCA Chanal ตลอดการแข่งขัน ส่วนโปรแกรมในวันที่ 31 พฤษภาคม แข่งขันรอบชิงชนะเลิศทั้งประเภทชาลเลนจ์ และชิงแชมป์เอเชีย เริ่มเวลา 10.45 น. โดยสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส จะถ่ายทอดสดให้ชมทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thai PBS และยูทูบช่อง Thai PBS
พลเอกเดชา เปิดเผยอีกว่า สำหรับการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2024 ของสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) หรือ “ACF Congress 2024” ในวันที่ 1 มิถุนายน ที่โรงแรม เดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น โดยได้รับเกียรติจาก ดาโต๊ะ อมาจิต ซิงห์ กิล คณะกรรมการบริหารของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) และรองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี) ชาวมาเลเซีย และ มร.ออนการ์ ซิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี) ชาวอินเดีย เข้าร่วมประชุมด้วย สำหรับการประชุมจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเช้าเวลา 09.00-12.00 น. เป็นการประชุมคณะกรรมการบริหารสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน หรือ “ACF Management Committee Meeting” โดยมีกรรมการบริหารจากประเทศไทย, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม และ สปป.ลาว ร่วมประชุม
“ในช่วงบ่ายเป็นการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2024 หรือ ACF Congress 2024 เริ่มตั้งแต่เวลา 14.30-16.00 น. โดยจะมีสมาชิกทั้ง 11 ชาติในอาเซียนร่วมประชุม ได้แก่ ไทย, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, ลาว, สิงคโปร์, บรูไน และติมอร์เลสเต ในโอกาสนี้จะมีการมอบรางวัลเกียรติยศ ACF Merit Award ให้แก่ผู้ที่ทำผลงานอันทรงคุณค่าและสร้างคุณประโยชน์ให้แก่วงการกีฬาจักรยานในอาเซียน จำนวน 2 รางวัล โดยจะประกาศชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลหลังจากมวลสมาชิกได้ลงมติในที่ประชุมเรียบร้อยแล้ว” พลเอกเดชา กล่าว
พลเอกเดชา กล่าวเสริมว่า วาระสำคัญในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีคือการหารือเรื่องการพัฒนาวงการกีฬาจักรยานในภูมิภาคอาเซียน การจัดการแข่งขันจักรยานอาเซียนซีรีส์ และเรื่องการจัดแข่งขัน Balance Bike หรือจักรยานหนูน้อยขาไถ ที่กำลังเป็นที่นิยมแพร่หลายในทั่วโลก แต่ไม่มีการออกกฎกติกาหรือระเบียบการแข่งขันที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ที่สำคัญหลาย ๆ ประเทศมีข้อกำหนดว่าหากจะส่งนักกีฬาไปแข่งขันต้องมีไลเซ่น หรือใบอนุญาตจากสมาคมหรือสหพันธ์จักรยานในประเทศนั้น ๆ ถึงจะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ ในจุดนี้เอซีเอฟก็จะร่วมหารือการออกกฎระเบียบการแข่งขันให้ชัดเจน เพื่อที่ทุกประเทศในอาเซียนจะใช้กฎระเบียบเดียวกัน และถือเป็นข้อปฏิบัติที่ชัดเจน หลังจากนั้นก็จะนำเรื่องนี้ไปเสนอกับ เดวิด ลาปาเตียนท์ ประธานสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) เพื่อพิจารณาให้การรับรองต่อไป.