ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 24 ตุลาคม …

ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 24 ตุลาคม 2566

ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 24 ตุลาคม 2566

ประชุมคณะรัฐมนตรี

ครม. เลื่อนวันหยุดชดเชยสิ้นปีจาก 2 ม.ค. เป็น 29 ธ.ค. และเพิ่มวันหยุด 1 วัน ในวันที่ 30 ธ.ค. 67

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้เลื่อนวันหยุดชดเชยวันสิ้นปี ประจำปี 2566 จากวันอังคารที่ 2 มกราคม 2567 เป็นวันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม 2566 และเห็นชอบการกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ประจำปี 2567 จำนวน 1 วันคือ วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม 2566 และรับทราบภาพรวมวันหยุดราชการ ประจำปี 2567 จำนวน 20 วัน ส่วนกรณีที่หน่วยงานใดมีภารกิจในการให้บริการประชาชน หรือมีความจำเป็นหรือราชการสำคัญในวันหยุดดังกล่าว ที่ได้กำหนดหรือนัดหมายไว้ก่อนแล้ว ซึ่งหากยกเลิกหรือเลื่อนไปจะเกิดความเสียหายหรือกระทบต่อการให้บริการประชาชน ให้หัวหน้าหน่วยงานนั้นพิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร โดยมิให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการและกระทบต่อการให้บริการประชาชน

ขณะที่ในส่วนของรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงินและภาคเอกชน ให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย และโรงงาน พิจารณาความจำเป็นเหมาะสมของการกำหนดให้วันดังกล่าวข้างต้นเป็นวันหยุดให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณีต่อไป

ทั้งนี้ การเลื่อนวันหยุดชดเชยวันสิ้นปี จากวันอังคารที่ 2 มกราคม 2567 เป็นวันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม 2566 เพื่อให้เกิดการกระจายตัวของการเดินทางเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ และการกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ประจำปี 2567 เพื่อให้มีวันหยุดต่อเนื่องในช่วงดังกล่าว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางและเกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ อีกทั้งการที่ ครม. มีมติเลื่อนวันหยุดชดเชยและกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษล่วงหน้าจะช่วยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ รวมทั้งภาคเอกชนสามารถวางแผนการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องล่วงหน้าได้อย่างเหมาะสมต่อไป

นายกฯ ชื่นชม ททท. เตรียมจัดกิจกรรม Colorful Bangkok Winter Festival กระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงปลายปีให้คึกคัก

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ณ บริเวณโถงกลาง ชั้น 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรม Colorful Bangkok Winter Festival โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เตรียมจัดกิจกรรมความสุข 5 กิจกรรมสำคัญ ได้แก่ กิจกรรมสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2566 กิจกรรม Vijit Chao Phraya 2023 กิจกรรม Amazing Thailand Passport Privileges กิจกรรม Amazing Thailand Marathon Bangkok 2023 และ Amazing Thailand Countdown 2024 เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงปลายปีให้คึกคัก พร้อมส่งเสริมความเชื่อมั่นในการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชม ททท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับการเตรียมจัดกิจกรรม Colorful Bangkok Winter Festival เป็นการดำเนินการที่ดีที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมั่นและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งเป็นการมอบความสุขให้กับประชาชน รวมทั้งนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในการเตรียมกิจกรรม Colorful Bangkok Winter Festival ด้วย

สำหรับกิจกรรม Colorful Bangkok Winter Festival มุ่งนำเสนออัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่านเทศกาลลอยกระทง ศิลปะ แสงสี ดนตรี กิจกรรม countdown ทั่วเกาะรัตนโกสินทร์ จากคลองผดุงกรุงเกษมสู่ริมเจ้าพระยา นับเป็นก้าวสำคัญของการส่งเสริมและเพิ่มมูลค่าแก่ต้นทุนทางวัฒนธรรม Soft Power ได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งนอกจาก 5 กิจกรรมสำคัญแล้วกรุงเทพมหานครยังประสานความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน เข้าเป็นหนึ่งเดียวภายใต้โครงการฯ ร่วมจัดกิจกรรมในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อเพิ่มแรงส่งกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงปลายปีอย่างเต็มกำลัง และจะเป็นต้นแบบการพัฒนาศักยภาพของกิจกรรมเริ่มจากเมืองหลวงก่อนจะยกระดับสู่ทั่วประเทศและสากลต่อไป

มติครม. เห็นชอบโยกย้าย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็น เลขาฯ ป.ป.ส. คนที่ 20

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่ขอโอนย้ายมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็น เลขาฯ ป.ป.ส.แล้ว แทนนายวิชัย ไชยมงคล ที่เกษียณอายุราชการเมื่อ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ นายวิษณุ เครืองาม เมื่อครั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ถึง ผบ.ตร.เพื่อขอโอนย้ายข้าราชการ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ไปดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง กระทรวงยุติธรรม เนื่องจากเห็นว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ จะเป็นเลขาฯ ป.ป.ส.คนที่ 20 มีเวลารับราชการอีก 2 ปี และจะเกษียณอายุราชการในปี 2568

ครม. อนุมัติให้ ขสมก. กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องกว่า 8,000 ล้านบาท

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน (กรณีรายได้ไม่พอสำหรับรายจ่าย) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รวมจำนวนกว่า 8,268 ล้านบาท และให้กระทรวงการคลัง เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ กำหนดวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ในการกู้เงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม รายงานว่า ขสมก. ได้เสนอขออนุมัติการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ประจำปีงบฯ พ.ศ. 2567 ซึ่งคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ มีมติเห็นชอบแล้วในคราวประชุมครั้งที่ 18/2565 เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565

ขสมก. ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน เนื่องจากผลประกอบการที่ขาดทุนและไม่ได้รับเงินชดเชยผลการขาดทุนตามจำนวนที่เกิดขึ้นจริง ทำให้ ขสมก. ยังมีหนี้สินค้างชำระรวมทั้งสิ้น 136,602.529 ล้านบาท (ณ วันที่ 30 ก.ย. 65)

ทั้งนี้ ขสมก. ได้จัดทำประมาณการเงินสดรับ-จ่าย ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 คาดว่า จะมีเงินสดคงเหลือปลายงวดขาดมือ จำนวน 23,635.409 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอที่จะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดสภาพคล่องทางการเงินและสามารถทำให้องค์กรบริหารจัดการต่อไปได้ ขสมก. จึงมีความจำเป็นต้องกู้เงินจำนวน 23,635.409 ล้านบาทดังกล่าว โดยส่วนหนึ่งจะนำไปชำระคืนหนี้เงินกู้เดิมที่ครบกำหนดชำระและไถ่ถอนพันธบัตรเงินกู้ จำนวน 15,366.940 ล้านบาท ซึ่ง ขสมก. ได้นำเสนอ กค. เพื่อบรรจุเข้าแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบฯพ.ศ. 2567 แล้ว จึงคงเหลือเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินและเป็นเงินสดหมุนเวียนในการดำเนินงานของ ขสมก. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (เดือน ต.ค. 66- ก.ย. 67) จำนวน 8,268.469 ล้านบาท

ขสมก. พิจารณาแล้วเห็นว่า หาก ขสมก. กู้เงินมาชำระหนี้ (แทนการผิดนัดชำระหนี้) จะจ่ายค่าดอกเบี้ยเงินกู้ประมาณร้อยละ 1.188 (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64- 30 ก.ย.65) หรือปีละ 51.273 ล้านบาท ซึ่งทำให้ ขสมก. สามารถประหยัดค่าดอกเบี้ยค้างชำระลงได้ปีละ 221.124 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.177 ต่อปี

การเมือง/มั่นคง

นายกรัฐมนตรี เรียกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย หารือ กำชับให้เร่งขับเคลื่อนนโยบายควิกวิน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรียกรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยหารือที่ตึกไทยคู่ฟ้า เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ดำเนินการหลายเรื่อง เช่น การผลักดันนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภา โดยเฉพาะนโยบายควิกวิน (Quick Win) ต้องเร่งดำเนินการภายในระยะเวลา 3 เดือนให้สำเร็จ โดยนายกรัฐมนตรีต้องการให้มีการกำหนดตัวชี้วัด เพื่อให้งานสำเร็จ แต่จะไม่เกี่ยวข้องกับการปรับคณะรัฐมนตรี มุ่งเน้นเพียงการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นที่พึงพอใจของประชาชน

ส่วนการผลักดันนโยบายภาครัฐ โดยเฉพาะนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยืนยัน ไม่น่ากังวล เพราะทุกอย่างกำลังเดินหน้า โดยนโยบายนี้ได้เตรียมการมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังต้องพิจารณารายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วนและรอบคอบมากขึ้น ขณะเดียวกันก็พร้อมรับฟังความคิดเห็น เพื่อปรับให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ขณะที่ข้อท้วงติงด้านกฎหมายหรืองบประมาณ ต้องรอให้คณะอนุกรรมการที่ตั้งขึ้นมาหารือกันก่อน ซึ่งจะมีการคิดทบทวนและปรับตามความเหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมาย โดยส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องเงินงบประมาณที่จะนำมาใช้ไม่น่ามีปัญหา พร้อมมั่นใจว่านโยบายนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายภูมิธรรม ย้ำด้วยว่า พรรคเพื่อไทยไม่น้อยใจ ที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้แสดงออกถึงการสนับสนุนนโยบายนี้ เพราะคณะรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบร่วมกัน เนื่องจากเป็นมติคณะรัฐมนตรีแล้ว ดังนั้นทุกอย่างจึงถือเป็นผลงานร่วมกัน

เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว

นายกรัฐมนตรีเผยวิสัยทัศน์กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศในทุกระยะ พร้อมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน Dinner Talk Thailand’s Future อนาคตประเทศไทย 2024 ณ ห้อง convention center Centara Grand & Bangkok Convention Centre at CentralWorld โดยกล่าวว่า ประเทศไทยยังมีความต้องการให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งรัฐบาลมีความพร้อมในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเสมอ เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศ เช่น โครงการ Digital Wallet 10,000 บาท ที่รัฐบาลวางนโยบายมา เพื่อให้เงินจำนวนดังกล่าวสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่รัฐบาลต้องจำกัดระยะทางการใช้เงินจำนวนดังกล่าวถ้าอยู่ในระยะ 4 กิโลเมตร ซึ่งหากปล่อยฟรีทั่วประเทศ หรือให้เป็นเงินสดแทน เงินจำนวนนั้นอาจถูกใช้จ่ายเฉพาะพื้นที่บางแห่งเท่านั้น ซึ่งอีกหนึ่งเรื่องที่สอดคล้องกันคือ เรื่องของการเปิด Free Visa เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวด้วยและยังมีการเชิญชวนบริษัทภาคเอกชนให้ร่วมติดตามเวลาไปราชการต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความรู้และเกิดการซื้อขาย แลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ กับ partner ใหม่ๆ และเชื้อเชิญให้นักลงทุนจากประเทศต่างๆ เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่ม ซึ่งถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ

ซึ่งบรรยากาศภายในงาน Dinner Talk Thailand’s Future อนาคตประเทศไทย 2024 มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมากมายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพิ่มมาร่วมรับประทานอาหารและรับฟังวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีที่มีต่ออนาคตของประเทศไทย

กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย ผ่านการจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลการท่องเที่ยว นำเสนอวัฒนธรรมไทยอย่างสร้างสรรค์

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรม กำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว “Colorful Bangkok Winter Festival” ขึ้น ณ พื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวคุณภาพทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังกรุงเทพมหานครและเพื่อเป็นการเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีกิจกรรมต่างๆมากมาย อาทิ กิจกรรมสีสันแห่งสายน้ำมหกรรมลอยกระทง จัดขึ้น ณ คลองผดุงกรุงเกษม เพื่อสืบสานงานประเพณีลอยกระทงของไทย และส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางคลองในเมืองหลวง โดยคาดว่าจะเกิดรายได้หมุนเวียนทางการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท กิจกรรม Amazing Thailand Marathon Bangkok ในวันที่ 3 ธันวาคม 2566 คาดว่าจะมีผู้ร่วมวิ่งกว่า 3 หมื่นคน สร้างรายได้หมุนเวียนไม่น้อยกว่า 582 ล้านบาท กิจกรรมวิจิตรเจ้าพระยา จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1-31 ธันวาคม 2566 เพื่อการกระตุ้นการท่องเที่ยวก่อให้เกิดรายได้ต่อผู้ประกอบการเรือ ร้านอาหาร และธุรกิจริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยคาดการณ์จะมีเงินหมุนเวียนในช่วงการจัดกิจกรรมกว่า 750 ล้านบาท

สำหรับการจัดกิจกรรมนี้ เชื่อว่าจะเป็นการขับเคลื่อนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศผ่านต้นทุนทางวัฒนธรรม Soft Power of Thailand อย่างสร้างสรรค์ รวมถึงเป็นการตอบรับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยว อันจะช่วยผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมายสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวรวม 2.4 ล้านล้านบาท และจํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 28 ล้านคน ตามเป้าที่ตั้งไว้

เกษตรกรรม/สิ่งแวดล้อม

ค่าฝุ่น PM2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเช้าวันนี้สูงขึ้นในหลายพื้นที่

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเช้าวันนี้ (24 ต.ค.66) ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ พบค่าเกินมาตรฐาน 24 พื้นที่คือ ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน ริมถนนเอกชัย เขตบางบอน ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม ริมถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ ริมถนนคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา ริมถนนพุทธมณฑล 1 เขตตลิ่งชัน ริมถนนซอยนิคมบ้านพักรถไฟธนบุรี 5 เขตบางกอกน้อย ริมถนนแยกท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ ริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน ริมถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ เขตธนบุรี ริมถนนนราธิวาส เขตบางรัก ริมถนนพระรามที่ 4 หน้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน ริมถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง ริมถนนตรีมิตร วงเวียนโอเดียน์ เขตสัมพันธวงศ์ สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ ริมถนนพระราม 2 เขตบางขุนเทียน ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด ริมถนนดินแดง เขตดินแดง ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี

ทั้งนี้ คพ.คาดการณ์ฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้นถึงวันที่ 25 ตุลาคมนี้ เนื่องจากความกดอากาศสูงที่เริ่มแผ่เข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางของประเทศไทย ทำให้เกิดสภาพอากาศที่นิ่งความเร็วลมมีกำลังอ่อน จนฝุ่นละอองไม่สามารถระบายได้ในช่วงเวลาดังกล่าว

สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่มีฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ โดยสามารถติดตามตรวจสอบสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ได้ทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Air4thai และ AirBKK

อุตุฯ เตือน ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง

ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์นี้บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ส่งผลให้ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ ประกอบกับแนวร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น โดยฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยตลอดช่วง โดยบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในระยะนี้

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สำหรับพายุดีเปรสชันที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอล ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน “ฮอมูน” ( HAMOON ) คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดียและประเทศบังคลาเทศ โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย

สังคม

รณรงค์วันหลอดเลือดสมองโลก ปี 2566 ปีนี้ประเทศไทยพบผู้ป่วยกว่า 3 แสนราย ย้ำโรคนี้สามารถป้องกันได้

นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าโรคหลอดเลือดสมอง เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและความพิการที่สำคัญทั่วโลก พบประชากรโลกที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป 1 ใน 4 เป็นโรคหลอดเลือดสมอง หรือกว่า 101 ล้านคน เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 12 ล้านคน หรือจะพบผู้ป่วยใหม่ 1 คน ในทุกๆ 3 วินาที และเสียชีวิตมากถึง 6.5 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 90 ของโรคหลอดเลือดสมองสามารถป้องกันได้ องค์การโรคหลอดเลือดสมองโลก จึงกำหนดให้วันที่ 29 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันหลอดเลือดสมองโลก

สำหรับประเทศไทยข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขปี 2566 พบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 349,126 คน เสียชีวิต 36,214 คน ประเทศไทยจึงร่วมรณรงค์ภายใต้คำขวัญปี 2566 นี้ คือ Together we are #GreaterThan Stroke : ร่วมมือกันป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนสร้างความตระหนักรู้เพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมองแก่ประชาชน

ด้านนายแพทย์ดิเรก ขำแป้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ทำได้โดยการควบคุมระดับความดันโลหิต ระดับน้ำตาล และระดับไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพลดหวาน มัน เค็ม มีกิจกรรมทางกายหรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ งดการใช้สารเสพติดทุกชนิด หลีกเลี่ยงความเครียดพักผ่อนให้เพียงพอ ตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวควรพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ และนอกจากนี้ควรรู้อาการหรือสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมองด้วยตนเอง หากมีอาการให้รีบโทรสายด่วน 1669 และนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว หรือภายใน 4 ชั่วโมง 30 นาที หากไปพบแพทย์ช้า อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต หรืออาจจะกลายเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต

ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา

ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา

แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว