กรีนสเปซ นำทีม10 SMEs อสังหาฯ จี้รัฐบาลกู้วิกฤตตลาดอสังหาฯก่อนล้มหายตายจาก

ดังนั้น เพื่อให้ตลาดอสังหาฯเดินได้ต่อ จึงเสนอมาตรการ7ข้อ

1.มาตรการซอฟท์โลนสำหรับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้สามารถนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียน ให้สามารถรับมือกับสถานการลูกหนี้การค้าค้างชำระเงินนานขึ้นได้

2.มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก รวมถึงยกเลิกมาตรการ LTV สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 และที่ 3

3.มาตรการดึงกำลังซื้อจากกลุ่มคนทำงานที่เป็นต่างชาติ (Expat) เช่นขยายเพดานการถือครองที่ดิน เป็น 99 ปี และขยายเพดานสัดส่วนการซื้อคอนโดมิเนียมสูงขึ้นเป็น 75%

4.มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อประชาชน ด้วยการลดค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมการโอนและการลดหย่อนภาษี

5.ลดภาษีนำเข้าสำหรับภาคการผลิต เพื่อช่วยลดราคาต้นทุนการผลิต

6.ลดค่าสาธารณูปโภคสำหรับภาคอุตสาหกรรม รวมถึงลดเงินสมทบในการนำส่งประกันสังคม

7.จัดตั้งหน่วยงานหรือองค์กรเพื่อคุ้มครองผู้ประกอบการ เพื่อช่วยเหลือและให้คำแนะนำ

สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการที่รวมตัวกันในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้ประกอบการระดับสตาร์ตอัปที่เปิดดำเนินกิจการมาไม่ถึง 10 ปี ไปจนถึงกลุ่ม SMEs  และโรงงานที่ดำเนินกิจการมาแล้วกว่า
60 ปี มีพนักงานสูงถึงระดับห้าร้อยคน ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้ ระบุว่า วิกฤตที่เผชิญอยู่ในขณะนี้รุนแรงที่สุดตั้งแต่เคยเผชิญมา และเทียบได้กับวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 ถึงแม้ว่าวิกฤตครั้งนี้จะมองดูผิวเผินไม่ได้รุนแรงเท่าปี 2540 นั่นเพราะว่าปี 2540 เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้มองเห็นความเสียหายได้ชัดเจน แต่ในวิกฤตครั้งนี้เกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป

ซึ่งเริ่มชัดเจนในช่วงโควิด – 19 และในครั้งนั้นผู้ประกอบการได้ปรับตัวรอบใหญ่ไปแล้ว ทั้งการปรับโครงสร้างพนักงาน การปรับลดสวัสดิการ ลดเวลาการทำงาน การขยายฐานลูกค้าใหม่ อย่างไรก็ตามภาระเงินกู้และดอกเบี้ยธนาคารที่กู้ยืมในช่วงโควิด-19 ยังคงส่งผลให้การเงินในปัจจุบันมีความฝืดเคือง ซึ่งหลายแห่งพยายามบริหารจัดการและรับมืออย่างเต็มกำลัง แต่หากสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจ และตลาดอสังหาฯ ยังไม่ได้รับการกระตุ้นอย่างเร่งด่วน

เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ จะส่งผลกระทบลุกลามไปสู่การปลดพนักงานก็เป็นได้ซึ่งส่วนนี้จะส่งผลต่อฐาน         กำลังสำคัญของประเทศ เนื่องจากภาค SMEs ถือเป็นผู้จ้างงานที่คิดเป็นสัดส่วนมากที่สุดของประเทศไทย

มาตรการสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์และ Supply Chain ที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นยาแรงในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในปัจจุบัน บรรเทาความเดือดร้อนอย่างทันท่วงที

นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐบาลออกมา รวมถึงอยู่ระหว่างการพิจารณา มองว่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้เป็นอย่างดี ซึ่งอยากจะร้องขอภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันในการทำงาน สนับสนุนให้เกิดขึ้นจริง เพื่อบรรเทาปัญหาที่อาจจะก่อให้เกิดวิกฤตในกลุ่มของตนในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการหลายภาคส่วนได้ทำการปลดพนักงานไปแล้วจำนวนมาก บางแห่งลดพนักงานไปมากกว่าครึ่ง

ก่อนหน้านี้ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจเติบโตดี ผู้ประกอบการได้เกิดแนวคิดในการจ้างงานแนวใหม่ที่จะเติบโตได้ในขณะเดียวกันก็สามารถมีส่วนช่วยเหลือสังคมได้ เช่น ผู้ประกอบการรายหนึ่งที่มีนโยบายสร้างงานให้กับกลุ่มชาวบ้านที่เดิมยึดอาชีพทำไร่ ซึ่งกิจกรรมบางส่วนกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการ เผาป่า เผาหญ้า และการถางป่าเพิ่มพื้นที่ทำกิน แต่ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างมากในขณะนี้ส่งผลให้ต้องลดการจ้างงานและแรงงานจำนวนมากต้องกลับภูมิลำเนาเดิม จึงมีความเสี่ยงที่แรงงานเหล่านั้นจะหันกลับไปยึดอาชีพเดิมที่ยังมีกิจกรรมทำลายสิ่งแวดล้อม

ขณะเดียวกันผู้ประกอบการบางรายได้นำเงินทุนสะสมมาใช้ในการจ่ายภาระที่เป็นค่าใช้จ่ายคงที่ (Fixed cost) ซึ่งหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นเงินทุนสะสมก็จะหมดลงไปและนำไปสู่การปลดคนงานทั้งหมด ซึ่งจะกระทบต่อกำลังซื้อของประเทศในวงกว้าง

ทั้งนี้ 10 กลุ่ม SMEs อสังหาฯ  ประกอบด้วยบริษัท บริษัท กรีนสเปซ จำกัด ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานภูมิทัศน์ตามแบบ รวมถึงบริการจัดหาต้นไม้ และยังมี Nursery ต้นไม้ ดำเนินกิจการเข้าสู่ปีที่ 14  มีพนักงานภายในองค์กรประมาณ 350 ชีวิต ปัจจุบันได้รับผลกระทบในเรื่องของปริมาณที่น้อยลงอย่างงเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นโครงการหมู่บ้านแนวราบหรืองานคอนโดมิเนียมแนวสูง

บริษัท คริสตัลวิว วินโดว์แอนด์ดอร์ จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและติดตั้งประตูหน้าต่างอลูมิเนียมให้กับโครงการบ้านพักอาศัย คอนโด อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล เป็นต้น เปิดดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 30 ปี มีพนักงานภายในองค์กรประมาณ 180 คน ปัจจุบันการเงินของบริษัทมีความฝืดเคือง เนื่องจากภาระเงินกู้และดอกเบี้ยธนาคารที่กู้ยืมในช่วงโควิด-19

บริษัท จินดาโชติ จำกัด ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ปัจจุบันดำเนินกิจการเข้าสู่ปีที่ 5 มีพนักงานภายในองค์กร 100 คน ตั้งแต่ต้นปี 2567 ที่ผ่านมาเป็นช่วงที่บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากสภาวะงานก่อสร้างชะลอตัว ทำให้พนักงานภายในบริษัท ขาดสภาพคล่องในการดำเนินชีวิต ส่งผลกระทบทั้งบริษัทและพนักงานทุกครัวเรือน

บริษัท ไทย สแทร์ จำกัด  ประกอบธุรกิจงานเหล็กบันได ดำเนินงานมากว่า 20 ปี มีพนักงานภายในองค์กรมากกว่า 200 คน ได้รับผลกระทบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นแผนงานชะลอในทุก Developer ทำให้ประมาณการ Forecast และรายรับลดลง

บริษัท ใบหญ้า สตูดิโอ จำกัด ประกอบธุรกิจผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมบ้านพักอาศัย , คอนโดมิเนียม,โรงงาน,สำนักงาน,โรงแรม,งานออกแบบตกแต่งภายใน และทำภาพ PERSPECTIVE งานขายบ้างในบางโครงการ ปัจจุบันดำเนินกิจการเข้าสู่ปีที่ 5 มีพนักงานภายในองค์กรทั้งหมด 22 คน ได้รับผลกระทบในส่วนของปริมาณงานออกแบบทั่วไปและจาก Developer ลดลงโดยประมาณ 20%

บริษัท ฟายด์ เวอร์ค จำกัด ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง มีโรงงานผลิตชิ้นส่วนพรีคาส โรงงานประกอบประตูรั้วงานเหล็ก และงานอลูมิเนียม ดำเนินกิจการเข้าสู่ปีที่ 32 มีพนักงานภายในองค์กรประมาณ 470 คน ปัจจุบันบริษัทยอมลดสัดส่วนกำไรเพื่อให้ได้มีปริมาณงานเข้ามาหล่อเลี้ยงองค์กร เป็นการรักษาสถานะบริษัทให้คงอยู่และให้ทุกคนในบริษัทยังมีงานทำ

บริษัท เฟรมเทค วินโดว์ แอนด์ ดอร์ จำกัด ประกอบธุรกิจอลูมิเนียมโรงงานประกอบและติดตั้งงานประตู หน้าต่างอลูมิเนียม พร้อมกระจก งานบ้านและงานอาคารสูง ดำเนินกิจการเข้าสู่ปีที่ 20 มีพนักงานภายในองค์กร 500 คน ปัจจุบันยอดขายบริษัทตกลงอย่างต่อเนื่อง และลูกค้าค้างชำระหนี้การค้ายาวนานเสี่ยงหนี้สูญ ต้องกู้เงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมากเพื่อให้บริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอ

บริษัท สยามแกรนด์ อลูมิเนียม จำกัด ประกอบธุรกิจอลูมิเนียม โรงงานผลิตและติดตั้งประตู-หน้าต่างอลูมิเนียม ดำเนินกิจการเข้าสู่ปีที่ 17 มีพนักงานภายในองค์กรประมาณ 215 คน เนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์มีการชะลอตัวอย่างมาก จนส่งผลกระทบให้บริษัทไม่มีการเรียกสินค้าเข้าโครงการต่าง ๆ (ไม่มียอดรายการในการผลิตงาน) ไปจนถึงรายการที่ผลิตแล้วเลื่อนส่งสินค้าแบบไม่มีกำหนด

บริษัท เอส.เอช.แอล.พาราวู้ด จำกัด   ประกอบธุรกิจ SME ผลิตพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ผลิตวัสดุปูพื้น ไม้บันได ไม้ยางพาราแปรรูป ดำเนินกิจการเข้าสู่ปีที่ 60 มีพนักงานทั้งสิ้น 300 คน ปัจจุบันทางบริษัทเห็นว่ากำลังซื้ออ่อนตัวลง หนี้ครัวเรืองสูง อสังหาริมทรัพย์ขายออกยาก ธนาคารปล่อยสินเชื่อยาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อ Supply Chain ทั้งหมดอย่างแน่นอน

บริษัท เอ็ม.เอ็ม. เค คอมเมอร์เชียล จำกัด  ประกอบธุรกิจพื้นไม้ลามิเนต พื้นสำหรับภายในอาคาร อาทิเช่น พื้นไม้ลามิเนต พื้น SPC พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ พื้นนวัตกรรมใหม่ ดำเนินกิจการเข้าสู่ปีที่ 24 มีพนักงานทั้งสิ้น 58 ชีวิต ปัจจุบันบริษัทพบว่าทั้งลูกค้าใหม่และเก่า ชะลอตัวและหยุดนิ่งในการสั่งซื้อสินค้าจากทางบริษัท ทำให้เกิดผลกระทบในด้านการเงินเพื่อประคับประคองทั้งธุรกิจและพนักงาน